การตรวจพระว่าแท้หรือปลอมนั้นโดยปกติจะอาศัย
“ตา” เป็นส่วนใหญ่ ตาของผู้ศึกษาและสะสม ตาของเซียน ตาของพ่อค้า
ต่างก็มีการวิเคราะห์ที่แตกต่างกันไป
ขึ้นอยู่กับความรู้ความชำนาญตามที่ได้รับการศึกษาหรือถ่ายทอดมา
หากต้นทางที่ศึกษาหรือถ่ายทอดไม่ดีหรือผิดเพี้ยนไปเสียแล้ว ปลายทางย่อมเพี้ยนหรือผิดทางตามไปด้วย จึงเป็นปัญหาที่ต่างฝ่ายต่างถกเถียงกันว่าพระของตนนั้นแท้ ของอีกฝ่ายนั้นปลอม การตรวจโดยอาศัยผู้ทรงฌาณกำหนดจิตรู้สัมผัสถึงพลังที่แฝงอยู่ภายในองค์พระ
เป็นวิธีการที่แม่นยำ น่าเชื่อถือ (สำหรับผู้ที่เชื่อถือ)
ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่องค์พระที่ตรวจ มีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่ก็เป็นจุดอ่อนให้ผู้ที่เล่นพระโดยไม่เคยฝักใฝ่ทางธรรมได้โต้แย้ง เพราะไม่อาจมองเห็นได้ด้วย “ตา” ตนเองจับต้องไม่ได้ ไม่มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรยืนยัน
การนำวิธีการทางวิทยาศาสตร์มาใช้จึงช่วยสร้างความมั่นใจและเป็นหลักฐานอ้างอิงได้ดีทางหนึ่ง เราคงเคยได้ยินคำว่า Carbon
– 14 (คาร์บอน – 14) แต่อาจไม่ทราบว่าคืออะไร และวิธีการนี้สามารถตรวจหาอายุของมวลสารได้อย่างไร
โลกของเราได้รับรังสีคอสมิก (cosmic rays) ซึ่งเป็นอนุภาคที่มีพลังงานสูงมหาศาลจากอวกาศตลอดเวลา เมื่อรังสีคอสมิกทะลุผ่านมายังชั้นบรรยากาศของโลกจะเข้าชนกับอะตอมของไนโตรเจนในชั้นบรรยากาศ
อนุภาคนิวตรอนของรังสีคอสมิกจะเปลี่ยนอะตอมของไนโตรเจน-14
(โปรตอน 7 ตัว และนิวตรอน 7 ตัว) ไปอยู่ในรูปของคาร์บอน-14 (โปรตอน 6 ตัว และนิวตรอน 8 ตัว) และไฮโดรเจนอะตอม (โปรตอน 1
ตัว และไม่มีนิวตรอน) คาร์บอน-14
เป็นธาตุกัมมันตภาพรังสี
ในขณะที่ธาตุคาร์บอนธรรมดาจะมีโปรตอนและนิวตรอนอย่างละ 6 ตัว
และไม่เป็นธาตุกัมมันตภาพรังสี ในธรรมชาติตามปรกติจะมีปริมาณคาร์บอน-14 ที่น้อยนิดเมื่อเปรียบเทียบกับคาร์บอนธรรมดา
เช่นในต้นไม้ที่ยังมีชีวิตอยู่ เราจะพบว่าจำนวนอะตอมของคาร์บอน-14 (สัญลักษณ์ C-14) ต่อจำนวนอะตอมของคาร์บอน-12
(C-12) จะเท่ากับ 1:1 ล้านล้าน
ธาตุ C -14 มี ครึ่งชีวิต (half
life) เท่ากับ 5,730 ปี
ซึ่งหมายความว่าภายในเวลา 5,730 ปี ครึ่งหนึ่งของอะตอม C
-14 ที่มีในวัตถุ จะสลายตัว และอีก 5,730 ปี
ครึ่งหนึ่งของอะตอม C -14 ที่เหลือซึ่งก็คือ 1 ใน 4 ของของเดิมจะสลายตัว เป็นเช่นนี้ไปทีละครึ่งของที่มีในทุก
5,730 ปี จนกระทั่งอะตอมของ C -14 สลายตัวหมด
และเพราะเหตุว่าความร้อน ความเย็น
หรือความดันใดๆ ไม่สามารถ ชะลอหรือเร่งเวลาในการสลายตัวของอะตอมเหล่านี้ได้เลย ดังนั้นการรู้อัตราการสลายตัวของ C -14 ที่มีในวัตถุ จะทำให้นักวิทยาศาสตร์ รู้อายุของวัตถุนั้นได้ทันที วิธีการนี้เหมาะสำหรับการคำนวณหาอายุมวลสารที่มีอายุ
50 – 60,000 ปี
(ขอบคุณข้อมูลจาก http://geothai.net/gneiss/?p=32 และ http://www.scidatdaruni.org/index.php?option=com_content&view=article&id=402:radiocarbon-dating-technique&catid=68:sciencegoru&Itemid=13)
ผมได้รับข้อมูลการตรวจหาอายุพระสมเด็จพิมพ์ขอบล่างฟันหนูจากเพื่อนธรรมคนหนึ่ง
เห็นว่าเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการศึกษาค้นคว้า และเป็นหลักฐานที่น่าเชื่อถือรับฟังได้ในทางวิทยาศาสตร์ จึงขออนุญาตนำข้อมูลดังกล่าวมาลงไว้
เจ้าของพระได้นำพระสมเด็จพิมพ์ขอบล่างฟันหนู 5 องค์
ส่งไปตรวจที่สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ตรวจหาอายุ เนื่องจากการตรวจจำเป็นต้องบดองค์พระให้ละเอียดและมีจำนวนมวลสารมากพอ จึงเป็นที่น่าเสียดายสำหรับองค์พระสวย ๆ ทั้ง 5
องค์ ตามภาพที่ปรากฏ
จากรายงานผลการทดสอบ
.....ทำการวิเคราะห์เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2556 ผลการตรวจหาอายุ คือ 1170 ± 170
ปี ตัวเลขนี้ผู้วิเคราะห์อธิบายว่า
มวลสารที่เป็นองค์ประกอบในพระสมเด็จซึ่งมีอายุน้อยที่สุดคือ 170
ปี
และมวลสารที่มีอายุมากที่สุดคือ 1,170 ปี
สรุปได้ว่า พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ขอบล่างฟันหนูมีอายุ 170
ปีล่วงมาแล้ว นับจากปี 2556 ซึ่งเป็นปีที่ทดสอบ เท่ากับว่าสร้างเมื่อปี 2386 โดยประมาณ สอดคล้องกับข้อมูลหลักฐานที่เคยมีผู้พบพระสมเด็จพิมพ์นี้ใต้ฐานรูปหล่อสมเด็จพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี ว่าสร้างระหว่างปี 2379 - 2387 สำหรับมวลสารบางส่วนในพระสมเด็จพิมพ์นี้ที่มีอายุประมาณ
1,170 ปี คงสันนิษฐานได้ว่าเป็นมวลสารจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์โบราณที่สมเด็จโตท่านนำมาผสมลงไป
ข้อมูลการวิเคราะห์พระสมเด็จด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์เช่นนี้ ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาได้จากเว็บไซต์ของ “ชมรมศึกษาวิจัยพระเครื่องไทย” ตามลิงค์นี้
http://amulet-association5.blogspot.com/
เพิ่มเติม
๗ ตุลาคม ๒๕๕๖
ข้อมูลที่ว่า ตัวเลข 170 คือ อายุมวลสารที่มีอายุน้อยที่สุดนั้น ผมได้รับมาจากเพื่อนธรรมที่ส่งข้อมูลให้ซึ่งบอกว่าผู้วิเคราะห์บอกเช่นนั้น คงเป็นความเข้าใจผิด จึงขออภัยมา ณ ที่นี้
เป็นการพิสูจน์ที่ให้ความแม่นยำสูงสุดครับ แต่ผมเสียดายพระจังเลยครับ
ตอบลบมาดูที่นี่ก็ได้ครับ
ตอบลบhttp://prawang.blogspot.com/p/blog-page_9728.html
เลื่อนลงมาตรงลับลมคมนัย
ข้อมูลแน่นมาก
ตอบลบแต่เสียดายพระจัง
เรียน ท่านเจ้าของบล็อค
ตอบลบขอเรียนมาด้วยความเคารพและนับถือนะครับว่า ผลการตรวจหาอายุ คือ 1170 ± 170 ปี ตัวเลขนี้ผู้วิเคราะห์อธิบายว่า มวลสารที่เป็นองค์ประกอบในพระสมเด็จซึ่งมีอายุน้อยที่สุดคือ 170 ปี และมวลสารที่มีอายุมากที่สุดคือ 1,170 ปีนั้น ผมว่าผู้วิเคราะห์นั้นคงเข้าใจอะไรผิดนะครับ
ผมคิดว่าเป็นการแปลความหมายของค่าที่ออกมาผิดนะครับ (จากเว็ปไซด์อ้างอิ้งนั้น) ความหมายที่น่าจะถูกต้องก็คืออายุของมวลสารเก่าสุดคือ 1000 ปี และมีค่าผันแปรโดยมวลสารเก่าสุดอาจจะเป็น 1170 ปี หรือ 830 ปี โดยไม่ใช่เป็นมวลสารอายุน้อยสุด 170 ปีครับ
ถ้านำภาพผลการวิเคราะห์นี้ไปให้ใครก็ได้ที่อ่านผลแล็บเป็น ไม่ว่าจะเป็นแล็บไหนก็ได้ ก็จะได้ความหมายอย่างที่ว่านี้ครับ
ขอบคุณครับ
ลบได้สอบถามจากผู้วิเคราะห์โดยตรงแล้วครับ ผู้วิเคราะห์อธิบายว่า ผลการวิเคราะห์จะแสดงอายุของมวลสารหรือคาร์บอเนตที่มีอายุมากที่สุด คือ 1,170 ปี ตัวเลขบวกลบ 170 ปี คือค่าความคลาดเคลื่อนที่อาจะเป็นได้ เพราะฉะนั้น มวลสารหรือคาร์บอเนตที่มีอายุมากที่สุดของพระสมเด็จองค์ที่ตรวจสอบจึงมีอายุประมาณ 1,000 - 1,340 ปี ไม่ได้เป็นการตรวจหาอายุว่า "สร้างเมื่อใด" ใบรายงานผลการตรวจสอบจึงไม่ได้ระบุอายุการสร้างไว้ แต่ถ้าจะหาอายุการสร้างก็สามารถหาได้โดยใช้โปรแกรมคำนวณของต่างประเทศ ซึ่งผู้วิเคราะห์เคยใช้โปรแกรมคำนวณหาอายุการสร้างพระสมเด็จบางขุนพรหม ก็ได้ผลการคำนวณออกมาราวปี 2409 - 2412 ใกล้เคียงกับประวัติการสร้าง
จึงได้แก้ไขเพิ่มเติมบทความให้ถูกต้องแล้วครับ
นับถือท่านเจ้าของบล๊อคครับที่ได้มาชี้แจงให้ทราบกัน ขอขอบพระคุณครับ
ลบในเว็ปของชมรมศึกษาวิจัยพระเครื่องไทย ไม่เห็นมีการแก้ไขให้ผู้อ่านเกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง หรือจงใจให้คนเข้าใจดังว่าครับ
ตอบลบอาจเป็นความเข้าใจของผู้ทำเว็บก็ได้ เพราะเท่าที่ได้พูดคุยกับผู้ที่ส่งข้อมูลนี้ให้ เขาก็เข้าใจในทำนองนั้น ผมจึงลงข้อมูลไปตามที่ได้รับมาแต่แรกครับ
ตอบลบหลักวิทยาศร์พิสูจน์ได้อย่างเป็นเหตุเป็นผลที่เชื่อถือได้
ตอบลบคุณ ไม่ระบุชื่อ13 มกราคม 2557 17:10 คุณได้ศิกษาและ รู้จริงหรือไม่ อย่าตี ลวน ถ้าคุณจริงใจ จงเปิดเผอญตัวจริง เพื่อศึกษาครับ ผม ภู ฯ 0801260435 ครับ
ตอบลบความรู้ใหม่ ๆทั้งนั้นเลยครับ ขอบคุณมากครับ
ตอบลบhttps://mobile.facebook.com/notes/สมชาย-น้อยสาคร/๑๐๒-๒-ความจริงเรื่องคาร์บอน-14-กับการตรวจหาอายุพระฯ/759957434118090/?_rdr
ตอบลบhttps://mobile.facebook.com/notes/สมชาย-น้อยสาคร/๑๐๒-๒-ความจริงเรื่องคาร์บอน-14-กับการตรวจหาอายุพระฯ/759957434118090/?_rdr
ตอบลบ